ทำไม E85 ถึงแรง

ทำไม E85 ถึงแรง

” ทำไมน้ำมัน E85 ถึงทำให้รถแรงขึ้น ? ” คำถามเนี้ยฮิตมาก สำหรับกระทู้ตามบอร์ดต่างๆในปัจจุบัน ถ้าอยากให้ลึกซึ้งกินใจ ต้องอธิบายถึงระดับโมเลกุลของไอ้เจ้า E85 นี้ แต่เนื่องจาก ตอนเรียน ได้ Chem มาแค่ C+ เลยคิดว่า อย่าอธิบายน่าจะเป็นการดีกว่า ๕๕๕

ข้อดีของน้ำมัน E85

  •  มันเย็นกว่า ( โมเลกุลทางเคมี เกี่ยวเนื่องกับออกซิเจน)
  • สามารถปรับตั้งไฟในการจุดระเบิดได้มากกว่า (More advance timing)
  • พลังงาน ” รวม ” ในการสันดาปจากการฉีดน้ำมันต่อหนึ่งครั้ง มีค่ามากกว่าน้ำมันเบนซิน (ไปคำนวณเอาเองนะ)
  • Octane สูง ข้อนี้จะทำให้สามารถเพิ่มกำลังอัดของเครื่องยนต์ได้มากขึ้น โดยไม่ต้องกลัว Knock (รถเทอร์โบเพิ่มบูสต์ได้ รถ N/A เพิ่มกำลังอัดได้)

หลักๆเท่าที่ผมพอจะสรุปให้ก็น่าจะราวๆนี้ครับ ซึ่งทั้งสี่อย่างที่บอกมาข้างต้นนั้นคือข้อดีของเชื้อเพลงชนิดนี้ ส่วนที่เป็นหัวใจหลักของความแรงที่เกิดจากเจ้าเชื้อเพลิง E85 นั้น ก็จะอยู่ตรงที่การตั้งไฟให้มัน Advance นี่แหละครับ

 

ตั้งองศาการจุดระเบิดอย่างไร 

อุณภูมิของเปลวไฟ ที่เกิดจาก E85 เนี่ยมันจะมีอุณหภูมิต่ำกว่า Gasoline เนื่องจากมันให้พลังงานออกมาต่อโมเลกุลน้อยกว่า แต่ที่เราทำในการเพิ่มแรงม้าคือ ฉีดเจ้า E85 ให้มันเยอะๆ (ปริมาตรเยอะ) มันก็เลยต้องใช้เวลาเผาไหม้นานกว่าปกติเพื่อทำให้เชื้อเพลิงทั้งหมดที่ใส่เข้าไปนั้นเผาไหม้ได้หมด กอปรกับไอ้เจ้า E85 เนี่ยมันวาบไฟช้ากว่า Gasoline พูดง่ายๆคือมันไหม้ช้ากว่า(นิดส์นึง) เลยทำให้ต้องใช้เวลานานขึ้นไปอีกเพื่อจะเผาไหม้ให้หมดนี่แหละ เลยเป็นที่มาว่า เหตุไฉน จึงจะต้องตั้งไฟให้ Advance เข้าไว้ ในการจูน E85 (อันนี้อธิบายให้เห็นภาพแบบง่ายๆนะครับ )

จริงอยู่ที่การฉีดน้ำมันหนาๆ(Rich) จะทำให้เครื่องยนต์นั้นมีแรงม้าและแรงบิดเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ทำได้เพียงนิดหน่อยในระดับนึงเท่านั้นเองครับ ดังนั้นเข้าใจเสียใหม่นะครับว่า

การฉีดน้ำมันหนาๆ ไม่ได้ทำให้เครื่อง “แรง” เสมอไป !!!

Fig 1 กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และค่า A/F

ดังนั้นจาก Fig 1 จะเห็นได้ว่า การที่เราจะทำรถให้มีพละกำลังมากๆเนี่ย จะต้อง “จูน” ให้จ่ายน้ำมันหนานิดๆไว้ หรืออีกนัยหนึ่งถ้าดูค่า Lambda ก็จะอยู่ราวๆ 0.8x + – ประมาณนี้ครับ

การตั้งไฟนั้นถือเป็นงานที่ท้าทายที่สุดสำหรับ Tuner ครับ เนื่องจาก ทำไมดี งานนี้มีพังแน่นอนหลักการที่คุณจะเปลี่ยนเชื้อเพลิงจาก Gasoline มาเป็น E85 นั้น จะต้องตั้งไฟให้ Advanceมากกว่าเดิมที่เป็นอยู่ครับ (ขอหลีกเลี่ยงภาษาไทย เนื่องจากป้องกันการผิดพลาด) อธิบายภาษาชาวบ้านคือพยายามจูนให้หัวเทียนนั้นจุดระเบิดเร็วกว่าเดิมนั่นเองครับ แต่ไม่ใช่ว่าทุกโซนของตารางที่จะต้อง Advanceมากๆนะครับ

ทีนี้จะมีคำย่อที่เค้าใช้เรียกกันบ่อยๆ นั่นก็คือ TDC , BDC , BTDC

TDC : TOP DEAD CENTER

ศูนย์ตายบน = จุดที่ลูกสูบขึ้นสูงสุด

BDC : BOTTOM DEAD CENTER

ศูนย์ตายล่าง = จุดที่ลูกสูบลงต่ำสุด

BTDC : BEFORE TOP DEAD CENTER

ก่อนศูนย์ตายบน

หัวเทียนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสั่งจุดระเบิด “ก่อน” ที่จะถึง TDC เนื่องจากจะต้องมีระยะเวลาให้เชื้อเพลิงได้ทำการเผาไหม้(สันดาป) ให้สมบูรณ์ เมื่อเครื่องยนต์อยู่ในรอบต่ำ องศาการจุดระเบิด ณ จังหวะBTDC จะมีค่าน้อย (จุดระเบิดก่อน TDC แปร๊บบบบเดียว) แต่ในขณะที่รอบสูงๆ องศาการจุดระเบิดจะมีค่ามากขึ้น(จุดระเบิดก่อน TDC นานขึ้น) ทั้งนี้ เพื่อให้เชื้อเพลิงเผาไหม้ได้ทันเมื่อลูกสูบ เคลื่อนที่ขึ้นๆลงๆเร็วๆ นั่นเองครับ

 

อ้า รู้ว่า เริ่มงง อีกแระ งั้นเราลองมาดูกราฟของจริง จาก Base map ที่ใช้สตาร์ทเครื่องกันเลยดีกว่า

Fig 2 Base map

นี่คือตารางจริงที่ใช้ สตาร์ทเครื่อง K20A จาก HONDA Integra DC5 นะครับ ที่ผมไฮไลท์นั่น จะเป็นช่วงรอบเดินเบา(IDLE) จะเห็นได้ว่าไฟถูกเซ็ตให้ Advance เพียง 7-10 องศา เท่านั้น

Fig 3 Base map

เมื่อเราเหยียบคันเร่งแบบสุดติ่ง(Wide Open Throttle =WOT)รอบเครื่องยนต์สูงขึ้น ในส่วนที่ไฮไลท์ จะเห็นได้ว่าจำเป็นจะต้องปรับไฟให้ Advance มากขึ้นกว่าตอน IDLE

 

จูนรถยังไง ให้ใช้ E85 ?

ในกรณีแบบนี้ คำแนะนำของผมคือจำเป็นอย่างยิ่งครับ ที่จะต้องขึ้น Dyno เพื่อวัดแรงม้าและแรงบิด สำหรับการปรับไฟ ในการหาประสิทธิภาพเครื่องยนต์ที่ดีที่สุด มันต้องปรับจูนไปเรื่อย ไปเรื่อย จนกว่าจะถึง Limit ของมัน เนี่ยแหละครับ จุดเสี่ยงของการจูนรถเพื่อหาแรงม้าสูงสุดจากที่อธิบายไปคร่าวๆ(โคตรคร่าวๆขิงๆ) การเปลี่ยนมาใช้ระบบน้ำมัน E85 เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องยนต์นั้นจำเป็นต้องมีปัจจัยใหญ่ๆอันได้แก่

  • วัสดุของระบบน้ำมันทั้งหลายแหล่ เริ่มตั้งแต่ถังและท่อน้ำมัน รวมถึงซีลยางต่างๆที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ทน E85 ได้
  • ปั๊ม และ หัวฉีด โดยที่ปั๊มนั้นจะต้องจ่ายน้ำมัน ออกจากถังได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการของหัวฉีด และหัวฉีดจะต้องมีความสามารถในการฉีดน้ำมันได้มากเพียงพอต่อความต้องการของเครื่องยนต์
  • Software สำหรับรถยนต์ที่ไม่ใช่ FFV จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมในการสั่งจ่ายน้ำมัน และ องศาไฟจุดระเบิดเสียใหม่ เพราะหากไม่ทำ สองอย่างนี้แล้วไซร้ คงยากที่จะทำให้รถยนต์มีสมรรถนะได้ดีเช่นดังเก่า

 

จบแล้วครับสำหรับบทความ E85 ผมพยายามจะเรียบเรียงให้มันง่ายที่สุดในฐานะที่ได้ร่ำได้เรียนมา และอยู่กับสิ่งๆนี้มานานพอสมควร
ดังนั้น แม้นบทความข้างบนอาจจะไม่ได้สมบูรณ์มากมายนัก แต่เชื่อว่า น่าจะพอนำทางให้หลายๆท่านได้เข้าใจเกี่ยวกับเจ้า E85 ได้
ไม่มากก็น้อย นะครับ

Share this post

ใส่ความเห็น