เลือกหัวฉีดแบบไหนดี – How to choose an injector

หัวฉีดนั้นสำคัญไฉน(เบนซิน)

คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า พื้นฐานการโมดิฟายเครื่องยนต์นั้น ชิ้นส่วนอันดับต้นๆ ที่เราจำเป็นต้องเปลี่ยนนั่นก็คือหัวฉีด
ไม่ว่ารถที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซล หรือเบนซิน เมื่อต้องการเพิ่มแรงม้าสูงขึ้นนั้น จะต้องมีการสันดาปที่รุนแรงมากขึ้น นั่นแปลว่า
จำเป็นต้องใช้ ส่วนผสมที่มากขึ้น ไม่ว่าจะอากาศหรือน้ำมัน ในส่วนหัวข้อนี้ เราจะมาทำความเข้าใจกับการเลือกหัวฉีดที่
เหมาะสมกับเครื่องยนต์ที่เราจะทำการโมดิฟายกันดีกว่าครับ

……..

เลือกหัวฉีดไซส์ไหนดี?

นี่เป็นคำถามที่ฮิตมากสำหรับมือใหม่ อย่างแรกเลย เราจำเป็นต้องทราบปัจจัยภายนอกต่างๆเหล่านี้ก่อนว่ามันมีปัจจัยใดบ้างที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อหัวฉีดซักหนึ่งชุด

1. แรงม้าที่ต้องการคือเท่าไหร่?
แน่ล่ะ ว่าการทำรถ 500 แรงม้า กับ 1000 ม้า ย่อมต้องใช้อุปกรณ์แตกต่าง หัวฉีดนี้ก็เช่นเดียวกัน บ้างบอกว่า ใหญ่ๆ ไปเลยก็ดี (จริงดิ่?)
2. ใช้เชื้อเพลิงอะไร ?
การใช้เชื้อเพลิงที่แตกต่างกัน สำหรับเครื่องยนต์เบนซินนั้น ย่อมทำให้อัตราการฉีดน้ำมันแตกต่างกันด้วย เนื่องจากอัตราส่วนในการผสมระหว่าง อากาศและน้ำมัน
มันแตกต่างกันในแต่ละเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันเบนซิน 95 จะฉีดน้ำมันน้อยกว่า แก๊สโซฮออล์ E85 เพื่อที่จะให้พลังงานในการสันดาปที่เท่ากัน เป็นต้น อ่านบทความเรื่อง ก่อนบูสต์จนพัง ต้องมาฟังเรื่องเวสเกต

หัวฉีดไซส์เล็ก สามารถฉีดน้ำมันหนาๆได้ แต่สุดท้ายก็จะฉีดได้แค่ในระดับนึงเท่านั้น เนื่องจากเมื่อต้องการฉีดน้ำมันมากๆ ถึงขั้นมากเกินความสามารถของหัวฉีดที่จะทำได้ นอกจากมันจะทำงานหนักแล้ว น้ำมันที่ฉีดออกมาจะไม่เป็นฝอย ส่งผลให้การจุดระเบิดทำได้ไม่ดี เสี่ยงพัง ส่วนหัวฉีดใหญ่ๆ แต่สั่งจ่ายให้ฉีดน้อยๆ นี่ก็ไม่ดีอีก ที่ดีที่สุด คือเลือกให้เหมาะสมต่อการใช้งาน

พวกประสิทธิภาพ หรือ ความสามารถของหัวฉีดในการฉีดน้ำมัน ที่เจ้าของผลิตภัณฑ์อวดอ้างว่า ฉีดกี่ CC. ก็จะถูกวัดกับประสิทธิภาพพวกนี้ ซึ่งมีภาษาเท่ห์ๆว่า Injector Duty Cycle (IDC) ซึ่งเต็มที่ หัวฉีดจะสามารถทำงานได้อยู่ที่ราวๆ 80-90% เท่านั้น
บางทีอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการกับเครื่องยนต์ที่มีแรงม้าสูงๆครับ
ผมจะยกตัวอย่างหัวฉีดที่ใช้กับเครื่องยนต์ 4G63T ที่แปรผันกับแรงม้า ดังตารางด้านล่าง
HP Goal – Min Injector Size (cc/min)*
250hp-……. 550cc
300hp-……. 650cc
350hp-……. 750cc
400hp-……. 850cc
450hp-……. 950cc
500hp-……. 1050cc

ลักษณะการสั่งจ่ายไฟของECU เพื่อให้หัวฉีดทำงาน Source

เลือกหัวฉีดอะไรดี ?

หัวฉีดส่วนใหญ่ สามารถรองรับแอลกอฮออล์ได้ ซึ่งเหมาะสมต่อเชื้อเพลิงบ้านเราที่เป็นแก๊สโซฮออล์ ดังนั้น ณ ยุคปัจจุบัน ไม่มีอะไรน่าห่วงเท่าไหร่ว่าจะเลือกยี่ห้อไหน
ที่สำคัญคือ จะต้องเลือกหัวฉีดให้ถูกต้องกับเครื่องยนต์ ไม่งั้นมันจะใส่กันไม่ได้ไง !!!

ภาพแสดงส่วนประกอบภายในของหัวฉีด

เปลี่ยนหัวฉีดแล้วต้องเปลี่ยนปั๊มมั้ย ?

เปลี่ยนสิฮะ เมื่อหัวฉีดใหญ่ขึ้น น้ำมันต้องฉีดมากขึ้น ก็ต้องป้อนน้ำมันให้เพียงพอต่อความต้องการ ทีนี้ปั๊มเดิมก็อาจจะไม่เพียงพอ ซึ่งในทางทฤษฏี มันมีวิธีการคำนวณอยู่ครับ
เดี๋ยวจะยกตัวอย่างให้ดูนะ
750cc @ 100% IDC will support 53.83lbs/min
750cc @ 80% IDC will support 43.07lbs/min

จากตัวอย่าง ข้างต้น หัวฉีด 750 cc ที่ 100% IDC จะต้องใช้ปั๊มที่มีอัตราการไหล อยู่ราวๆ 53.83 ปอนด์ต่อนาที (สามารถลองแปลงหน่วยได้นะ)
ในขณะที่ ถ้า 80% IDC จะใช้ปั๊ม 43.071 ปอนด์ต่อนาที เป็นต้น จากที่ผ่านมา เราได้อธิบายว่า เวลาเลือกหัวฉีดนั้น ควรจะใช้ค่า IDC ประมาณ 80% เป็น Maximum
ดังนั้น เราก็บอกได้ว่า อ๋ออออ ถ้าเราจะทำรถยนต์มีแรงม้าราวๆ 350 แรงม้านั้น อัพหัวฉีดเพิ่มแค่ 750 cc. ก็เพียงพอแล้ว สำหรับเชื้อเพลิง เบนซิน 95 และเพื่อความชัวร์ อาจจะ
ปั๊มเบนซินเดิมๆก็เอาอยู่(ตัวอย่างนี้ได้มาจากค่าจริงของเครื่อง 4G63T)

แค่นี้จบแล้ว วิ่งได้แล้ว แรงได้แล้ว ?

ผิด !!! อีกเรื่องนึงที่ห้ามลืมเด็ดขาดเลยคือ Regulator หรือตัวคุมแรงดันน้ำมัน ซึ่งมีหน่วยเป็น Psi ที่เราจะเห็นว่าเค้าหมุนๆจูนกัน(สมัยนี้ใช้กล่องจูนได้แว๊ววว)
ถามว่าทำไปเพื่ออะไร???
ทำไปเพราะว่า หัวฉีดที่มันฉีดๆกันเนี่ย มันต้องใช้แรงดันให้น้ำมันออกมากไง โดยที่แรงดันมันก็จะมารออยู่ในรางหัวฉีดและหัวฉีด เมื่อกล่องสั่งจ่ายน้ำมันน้ำมันจึงพุ่งออกไป
ซึ่งหัวฉีดแต่ละรุ่น แต่ละไซส์ ย่อมมีเสป็คที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้น ก่อนจะติดตั้งหัวฉีดใหม่ จำเป็นจะต้องทราบด้วยว่า ต้องปรับ Regulator ไว้ที่เท่าไหร่

ภาพแสดง Fuel regulator 

สรุป !

สิ่งที่ต้องรู้ว่าจะเปลี่ยนหัวฉีดคือ
1. แรงม้าเท่าไหร่
2. เชื้อเพลิงอะไร
เมื่อทราบทั้งสองอย่างแล้ว เลือกขนาดหัวฉีดได้แล้ว ที่นี่ก็ต้องมาดูว่า
– หัวฉีดที่เลือกนั้น ใช้อัตราการไหลเท่าไหร่(Lbs/min)
– ปั๊มสามารถรองรับไหวมั้ย (แปลงหน่วยเป็น L/min)
– อัตราการไหลของหัวฉีดนั้น แปลงหน่วยเป็น Psi ได้เท่าไหร่( เพื่อที่จะได้ปรับค่า Regulator ได้ถูกต้อง)

จบแล้วครับ สำหรับบทความนี้ เป็นอย่างไรกันบ้าง ชอบหรือไม่ชอบอย่างไร สามารถโพสต์แสดงความคิดเห็นกันได้ใน แฟนเพจ JINKYARD หรือ แอดไลน์มาคุยกันก็ได้ครับ ที่ Line Id : @Jinkyard
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ